ในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันในตลาดออนไลน์มีความเข้มข้น การทำเว็บไซต์ธุรกิจที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หลายธุรกิจมักทำผิดพลาดในการสร้างและปรับปรุงเว็บไซต์ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่ออันดับ SEO และการเข้าถึงลูกค้าโดยไม่รู้ตัว มาดูกันว่า 5 ความผิดพลาดที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง และจะแก้ไขได้อย่างไร
1. เว็บไซต์โหลดช้า
ปัญหา: ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์เป็นปัจจัยสำคัญที่ Google ใช้ในการจัดอันดับ หากเว็บไซต์โหลดช้าจะส่งผลให้ผู้ใช้งานออกจากเว็บเร็วขึ้น (Bounce Rate สูง) และทำให้อันดับ SEO ลดลง
วิธีแก้ไข:
- ใช้เครื่องมือทดสอบความเร็วเว็บไซต์ เช่น Google PageSpeed Insights
- บีบอัดรูปภาพให้เล็กลงโดยไม่ลดคุณภาพ เช่น ใช้ WebP แทน JPG หรือ PNG
- ลดการใช้ปลั๊กอินที่ไม่จำเป็น และใช้โฮสติ้งคุณภาพสูง
- ใช้ CDN (Content Delivery Network) เพื่อลดเวลาโหลดหน้าเว็บ
2. ไม่ปรับเว็บไซต์ให้รองรับมือถือ (Mobile-Friendly)
ปัญหา: ปัจจุบันผู้ใช้มือถือมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ หากเว็บไซต์ของคุณไม่รองรับการแสดงผลบนมือถือ Google อาจลดอันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหา
วิธีแก้ไข:
- ใช้ดีไซน์ที่เป็น Responsive Design เพื่อให้หน้าเว็บปรับตัวอัตโนมัติตามขนาดหน้าจอ
- ทดสอบเว็บไซต์ด้วย Google Mobile-Friendly Test
- ปรับขนาดตัวอักษรและปุ่มให้ใช้งานง่ายบนอุปกรณ์พกพา
3. ไม่มีการใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสม
ปัญหา: หลายธุรกิจมักใช้คีย์เวิร์ดผิดพลาด เช่น ใช้คีย์เวิร์ดที่ไม่มีคนค้นหา หรือใส่คีย์เวิร์ดมากเกินไป (Keyword Stuffing) ซึ่งอาจทำให้ Google ลงโทษเว็บไซต์
วิธีแก้ไข:
- ค้นหาคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมโดยใช้เครื่องมืออย่าง Google Keyword Planner หรือ Ahrefs
- ใช้คีย์เวิร์ดอย่างเป็นธรรมชาติในหัวข้อ คำบรรยาย และเนื้อหา ไม่ใส่จนดูไม่เป็นธรรมชาติ
- ใช้ Long-Tail Keywords เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง
4. โครงสร้างเว็บไซต์ไม่ดี ไม่มีลิงก์ภายในที่เหมาะสม
ปัญหา: หากโครงสร้างเว็บไซต์ซับซ้อน หรือลิงก์ภายใน (Internal Links) ไม่ดี จะทำให้ Google และผู้ใช้เข้าถึงหน้าเว็บได้ยาก ส่งผลให้เว็บไซต์มีค่า Bounce Rate สูงและอันดับ SEO ลดลง
วิธีแก้ไข:
- วางโครงสร้างเว็บไซต์ให้เป็นระเบียบ เช่น การใช้ Breadcrumbs และเมนูที่ใช้งานง่าย
- ใช้ลิงก์ภายในเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงเนื้อหาสำคัญ และช่วย Google เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์
- ใช้ URL ที่เป็นมิตรกับ SEO (เช่น ใช้ slug ที่กระชับ เช่น
yourwebsite.com/บริการ-seo
แทนyourwebsite.com/page?id=123
)
5. ไม่มีเนื้อหาคุณภาพและไม่มีการอัปเดตสม่ำเสมอ
ปัญหา: เว็บไซต์ที่ไม่มีเนื้อหาที่ให้คุณค่า หรือขาดการอัปเดตจะทำให้ Google มองว่าไม่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน ซึ่งส่งผลให้อันดับลดลง
วิธีแก้ไข:
- สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า เช่น บทความที่ตอบคำถามลูกค้า หรือแนวทางแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ
- ใช้เทคนิค E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของเนื้อหา
- อัปเดตเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ เช่น การเพิ่มบทความบล็อก การอัปเดตผลิตภัณฑ์ หรือรีวิวลูกค้า
สรุป
การทำเว็บไซต์ให้ประสบความสำเร็จในด้าน SEO ต้องหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่พบบ่อยข้างต้นและปรับปรุงเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง ธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับ SEO อย่างถูกต้องจะสามารถเพิ่มการเข้าถึงลูกค้า ขยายโอกาสทางธุรกิจ และทำให้เว็บไซต์มีความได้เปรียบในการแข่งขันในโลกดิจิทัลปี 2025